ในช่วงเวลาเกือบ 5 ปีที่ผ่านมา หนึ่งในผู้มีส่วนขับเคลื่อนการส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้าของประเทศไทย วันนี้เรามาพูดคุยกับ ดร.ยศพงษ์ ลออนวล หนึ่งในผู้ก่อตั้งเเละนายกสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทยท่านแรกถึงเเนวทางการดำเนินงานของ สมาคมฯ ตั้งเเต่เริ่มต้นจนถึงปัจจุบัน แนวคิดในการผลักดันยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย ให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม รวมไปถึงมุมมองในอนาคตของยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย หลังจากสถานการณ์การเเพร่ระบาดชะลอตัวลง
-ตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา ในฐานะนายกสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย ได้มีบทบาทในการผลักดันเรื่องยานยนต์ไฟฟ้า ให้เกิดขึ้นในประเทศไทย อย่างไรบ้าง
สมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย เริ่มก่อตั้ง อย่างเป็นทางการตั้งเเต่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 (ค.ศ.2015) เป็นความร่วมมือระหว่างกลุ่มคนจากภาควิชาการและภาคเอกชน ภายใต้การสนับสนุนของภาครัฐ โดยใน ช่วงต้นปี พ.ศ. 2558 (ค.ศ. 2015) ผมได้มีโอกาสเข้าไปเป็นหนึ่งในที่ปรึกษา คณะอนุกรรมาธิการปฏิรูปพลังงานทดแทน พลังงานหมุนเวียนและอนุรักษ์พลังงาน ในคณะ กรรมาธิการปฏิรูปพลังงานสภาปฏิรูปแห่งชาติ ซึ่งได้จัดทำข้อเสนอการส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้าให้ทางรัฐบาล และเป็นช่วงเวลาที่เริ่มมีนโยบายในการส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้าอย่างเป็นทางการ เเละมองว่า ณ ช่วงเวลาดังกล่าวถือเป็นการเริ่มต้นที่ดี เพราะในฐานะนัก วิชาการ เราทราบปัญหาของประเทศไทย โดยเฉพาะเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ที่มีปัญหามลพิษจากการจราจรที่ติดขัด รวมทั้งปัญหาการปล่อยก็าซเรือนกระจกที่เป็นตัวการให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศหรือที่รู้จักกันว่าโลกร้อนซึ่งเป็น ปัญหาและความท้าทายระดับโลก การส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าจะช่วยบรรเทาปัญหาดังกล่าว และประเทศไทย เป็นหนึ่งในฐานการผลิตยานยนต์ที่สำคัญของโลก การส่งเสริมให้เกิดการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าและชิ้นส่วนสำคัญ เช่น แบตเตอรี่ ภายในประเทศ การส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมในประเทศ พร้อมด้วยการส่งเสริมผู้ประกอบการไทยให้สามารถไปแข่งขันในระดับโลกได้ในอนาคต โดยหวังว่าประเทศไทยจะเป็นฐานการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าของโลก ซึ่งจะช่วยทำให้ความสามารถในการแข่งขันของประเทศสูงขึ้น นำไปสู่ความมั่นคงทางเศรษฐกิจ และเป็นการเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ยั่งยืน ที่มีความต้องการใช้ยานยนต์สมัยใหม่และสามารถแก้ปัญหา สิ่งแวดล้อมที่กำลังเผชิญในระดับโลกได้ ซึ่งแนวคิดดังกล่าวภายหลัง นำมาเป็นเป้าหมายหลักในการดำเนินงาน ของสมาคมฯในเวลาต่อมาอย่างต่อเนื่อง
สมาคมฯ ยังได้เข้าไปมีส่วนร่วมกับทุกภาคส่วนในการผลักดันโครงการและกิจกรรมในหลายเรื่อง อาทิ การสนับสนุน ให้เกิดโครงสร้างพื้นฐาน อย่างเช่น สถานีอัดประจุไฟฟ้า การส่งเสริมการวิจัยและพัฒนายานยนต์ไฟฟ้าของประเทศ การทำงานในเชิงวิชาการในเรื่องมาตรฐานยานยนต์ไฟฟ้า หรือหลักสูตรในสถาบันการศึกษา การให้ความรู้แก่ประชาชน การส่งเสริมให้เกิดการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าและอุตสาหกรรมการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยควบคู่กัน และได้จัดทำ 8 ข้อเสนอการส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้าต่อภาครัฐในการผลักดันยานยนต์ไฟฟ้าให้เป็นรูปธรรม ได้แก่ การ จัดทำ EV Roadmap อย่างเป็นรูปธรรม ส่งเสริมการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า สนับสนุนให้มีการจัดทำมาตรฐานของยานยนต์ไฟฟ้า เเละชิ้นส่วน ที่เกี่ยวข้อง ส่งเสริมการออกมาตรการกระตุ้นการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า รวมถึงส่งเสริมศักยภาพเเละพัฒนาบุคลากรไทย ด้านการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า เป็นต้น รวมทั้งได้จัดพิมพ์ข้อเสนอเหล่านี้ลง EVAT Directory 2020 อีกด้วย ซึ่งทางสมาคมฯ จะยังคงยึดมั่นเป้าหมายในการส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าให้แพร่หลายมากยิ่งขึ้น เพื่อลดปัญหามลพิษอย่างฝุ่นละออง ขนาดเล็ก (PM 2.5) ที่ส่งผลต่อสุขภาพประชาชน ตามที่ทราบกันดีนั้น ซึ่งที่ผ่านมา ทางสมาคมก็ได้มีการทำงานร่วมกับ ภาครัฐตามข้อเสนอดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง
-จากสถานการณ์โควิด 19 ส่งผลอย่างไรกับอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า
ในระยะนี้ เศรษฐกิจของประเทศย่อมมีผลกระทบเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ และลักษณะของ อุตสาหกรรมยานยนต์มีห่วงโซ่อุปทานที่ยาว ย่อมมีผลกระทบต่อเนื่องกันเป็นลูกโซ่ ซึ่งพอเกิดผลกระทบ การฟื้นตัวอาจจะต้องใช้เวลาพอสมควร แต่อย่างไรก็ดี เนื่องจากข้อจำกัดในการลงทุนในช่วงนี้ ทำให้ผู้ผลิตต้องพิจารณาการลงทุนอย่างรอบคอบที่สามารถตอบโจทย์ได้ในระยะยาว กระเเสยานยนต์ไฟฟ้ากำลังจะกลายเป็นกระเเสหลัก และเชื่อว่าอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยจะมุ่งไปในทางยานยนต์ไฟฟ้าด้วย โดยเฉพาะหากภาครัฐให้การสนับสนุนเรื่องนี้อย่างจริงจังและต่อเนื่อง โดยใช้งบประมาณหรือทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดมุ่งเน้นในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อมไปพร้อมกัน หากมีการชะลอในเรื่องที่เกี่ยวกับปัญหาสิ่งแวดล้อมสุดท้ายจะย้อนกลับเป็นปัญหาในระยะยาว ดังนั้น มองว่าแม้ว่าช่วงนี้จะมีผลกระทบกับอุตสาหกรรมยานยนต์ที่มีผลประกอบการตกต่ำ
แต่หากมองในภาพใหญ่และในระยะยาว ยานยนต์ไฟฟ้าเป็นสิ่งคำตอบอย่างแน่นอน ดังนั้นที่เราคิดว่าไกลตัวอาจจะเริ่มใกล้ตัวเรามากขึ้น เพราะเป็นเรื่องของการเปลี่ยนเเปลงที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ภาคเอกชนที่ปรับเปลี่ยนตัวได้ทันเวลา จะทำให้รอดพ้นวิกฤตและเปลี่ยนเป็นโอกาสในการ เปลี่ยนแปลงครั้งนี้ และมองว่าในช่วงปีค.ศ. 2025-2030 ตลาดของยานยนต์ไฟฟ้า จะมีสัดส่วนไม่น้อยกว่า 30 % และแน่นอนในตลาดแห่งการแข่งขัน ผู้ปรับตัวได้ก่อน จะสามารถยืนหยัดอยู่ได้ เเละผู้ที่ไม่สามารถปรับตัวได้ทัน ย่อม อาจจะต้องเป็นผู้สูญเสียตลาดนี้ไป ขณะเดียวกันเราก็จะพบผู้เล่นใหม่ในตลาดเช่นกัน อีกทั้งในอนาคตยานยนต์ สมัยใหม่จะไม่ได้มีเเค่เรื่องยานยนต์ไฟฟ้าเเต่จะมีเรื่องการขับขี่อัตโนมัติ การเชื่อมต่อสื่อสารกับภายนอกยานยนต์ เเละเกิดรูปแบบธุรกิจยานยนต์ใหม่ เช่น การเเบ่งปัน (Mobility Sharing) เรื่องนี้เป็นแนวโน้มของยานยนต์สมัยใหม่ ไม่มีใครสามารถคาดการณ์ได้ทั้งหมดแต่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน ต้องพร้อมปรับตัวและก้าวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงนี้
-ดร. ยศพงษ์ ลออนวล กับบทบาทใหม่
ในฐานะ บทบาทใหม่หัวหน้าศูนย์วิจัย Mobility and Vehicle Technology Research Center มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี มจธ. หรือ เรียกสั้นๆว่า MOVE (มูฟ) โดยมีวิสัยทัศน์นำ MOVE ให้ก้าวเป็น ผู้นำด้านยานยนต์สมัยใหม่ที่ยั่งยืนผ่านการวิจัย นวัตกรรม และการศึกษา และ มีพันธกิจ การพัฒนา เทคโนโลยี เเละ นวัตกรรมด้านยานยนต์สมัยใหม่ ถ่ายทอดเทคโนโลยีให้กับผู้ประกอบการเพื่อใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ได้ รวมไปถึง การพัฒนาเเละสร้างห้องปฏิบัติการวิจัยที่ทันสมัยเพื่อรองรับการวิจัยโดยมีจะช่วยขับเคลื่อน มจธ. สู่การพัฒนา ที่ยั่งยืน โดย เสนอแนวคิด “การขนส่งแบบไร้มลพิษ เพื่อก้าวไปสู่การเดินทางที่ยั่งยืน” โดยการใช้ มหาวิทยาลัย เป็นสนามทดสอบ (Test Bed) และแหล่งเรียนรู้และวิจัยในวิถีชีวิต (Living Lab) ซึ่งในปัจจุบัน ศูนย์วิจัย นี้ได้มีการดำเนินงาน ร่วมเป็น พันธมิตร ทั้งกับภาครัฐเเละภาคเอกชนหลายภาคส่วนเเละในขณะเดียวกันยังไปช่วยในส่วนของงานบริหารมหาวิทยาลัย ด้วยล่าสุด ดร.ยศพงษ์ เพิ่งได้รับแต่งตั้งเป็น ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายพัฒนาความยั่งยืน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) โดยมจธ.มีนโยบาย การพัฒนา มหาวิทยาลัยที่ยั่งยืนโดยเป็นมหาวิทยาลัยสีเขียวและการเป็น Entrepreneurial University และการสร้าง ผู้นำ แห่งการ เปลี่ยนแปลงออกสู่สังคม (social change agent) โดยมหาวิทยาลัยมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำการพัฒนาอย่างยั่งยืน ในทุกกิจกรรม ตั้งแต่การดำเนินงาน การเรียนการสอน การทำวิจัยและนวัตกรรม จนถึงการบริการวิชาการ เพื่อชุมชน และผู้ประกอบการ และมี 5 เป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์ในการขับเคลื่อน ได้แก่
เป้าหมายที่ 1 ฝึกฝนทักษะการเป็นผู้นำของนักศึกษา
เป้าหมายที่ 2 สร้างผลกระทบจากผลงานวิจัยและนวัตกรรม
เป้าหมายที่ 3 สร้างการมีส่วนร่วมกับชุมชน
เป้าหมายที่ 4 สร้างโครงสร้างพื้นฐานและสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
เป้าหมายที่ 5 สร้างสรรค์ระบบการบริหารที่ยั่งยืน
สิ่งเหล่านี้ถือเป็นพันธกิจสำคัญของมหาวิทยาลัยเเละผู้บริหารที่จะต้องเดินหน้าเเละสานต่อไปพร้อมกัน
ดร. ยศพงษ์ ลออนวล ยังได้ทิ้งท้ายไว้ว่า การสิ้นสุดตำแหน่งไม่ได้หมายถึงการสิ้นสุดการทำงาน เพราะเรื่องเทคโนโลยี ยานยนต์ไฟฟ้าหรือยานยนต์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ที่จะแนวโน้มของยานยนต์สมัยใหม่ เป็นสิ่งที่ตนทำมาเป็นเวลามากกว่า 10 ปี ก่อนจะเกิดสมาคมหรือมีตำแหน่งใดๆ ดังนั้นยังทำงานในเชิงวิชาการอย่างต่อเนื่องแน่นอน นอกจากนี้ในฐานะที่ยังทำหน้าที่ในกรรมการผู้ทรงคุณวุติในคณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ จะช่วยผลักดันให้เกิดการส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้าอย่างต่อเนื่องได้อีกด้วย
สำหรับการส่งไม้ต่อ ให้กรรมการชุดใหม่นั้น กล่าวว่า ที่ผ่านมาการทำงานของสมาคมฯเน้นการมีส่วนร่วมของสมาชิกทุกคน ผ่านกระบวนการทำงานในรูปแบบคณะทำงานและผ่านการกลั่นกรองและมติของกรรมการสมาคมฯมาโดยตลอด ดังนั้น การดำเนินงานของนายกสมาคมหรือกรรมการใหม่ ย่อมต้องสานต่อความต้องการของสมาชิกสมาคมฯ และข้อเสนอ 8 ข้อ ของสมาคมฯ ยังเป็นสิ่งที่ต้องติดตามและทำงานร่วมกับทุกภาคส่วนเพื่อให้บรรลุเป้าหมายของสมาคมฯ นอกจากนี้ การมี คนใหม่ถือเป็นโอกาสที่ดีที่สมาคมฯมีการพัฒนาที่ต่อเนื่องและเป็นการเปิดโอกาสให้สมาชิกเข้ามาสานต่อการทำงานของสมาคมฯ และการส่วนร่วมในการผลักดันและส่งเสริมให้ประเทศไทยมี การใช้ยานยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเพื่อมาบรรเทา ปัญหามลพิษของประเทศรวมทั้งการส่งเสริมการพัฒนาระบบนิเวศของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าที่มั่นคงเเละยั่งยืนต่อไป
"ไฟฟ้า" - Google News
July 28, 2020 at 08:45AM
https://ift.tt/331WLQY
เปิดมุมมอง ประเด็นรถไฟฟ้ากับ ดร.ยศพงษ์ ลออนวล นายกสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย ก่อนอำลาตำแหน่ง - ผู้จัดการออนไลน์
"ไฟฟ้า" - Google News
https://ift.tt/2Wd4Qyj
Mesir News Info
Israel News info
Taiwan News Info
Vietnam News and Info
Japan News and Info Update
https://ift.tt/2SOJ3e7
Bagikan Berita Ini
0 Response to "เปิดมุมมอง ประเด็นรถไฟฟ้ากับ ดร.ยศพงษ์ ลออนวล นายกสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย ก่อนอำลาตำแหน่ง - ผู้จัดการออนไลน์"
Post a Comment